- เป็นหลักธรรมที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
- เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตอย่างมีศีลธรรม
- เหมาะสำหรับการพัฒนาตนเองในทุกระดับ ตั้งแต่คนทั่วไปจนถึงนักปฏิบัติธรรม
- ช่วยสร้างบุญกุศลและผลดีทั้งในชาตินี้และชาติหน้า การปฏิบัติตามกุศลกรรมบท 10 จึงเป็นเหมือน "คู่มือชีวิต" ที่ทำให้คนสามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างสงบสุข และพัฒนาจิตใจให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงที่สุดของการพ้นทุกข์ในทางพระพุทธศาสนา
มาศึกษาค้นคว้า คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากหนังสือ คลิปวีดีโอ แอปพลิเคชั่นต่างๆ ธรรมจากพระโอษฐ์ หรือ พุทธนวจน ออนไลน์กันเถอะ
"กุศลกรรมบท 10 สำคัญแค่ไหน ทำไมใครๆ ก็พูดถึง?"
อวิชชาปัจจยาสังขารา เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขาร
อวิชชา: ปัจจัยที่เป็นเหตุให้เกิดสังขารและการปรุงแต่งจิต
อวิชชาเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มนุษย์ยึดมั่นในความเชื่อผิด ๆ และปรุงแต่งการกระทำ ซึ่งวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏไม่รู้จบ
ความหมายของภพและการเกิดใหม่ในพระพุทธศาสนา: ภพ, ตัณหา, กรรม และวิญญาณ-The Meaning of Existence and Rebirth in Buddhism:
๑. ภพเป็นอย่างไร
ในพระพุทธศาสนา "ภพ" หมายถึง การมีอยู่ของรูปหรือสภาพความเป็นตัวตนในสามภพ ซึ่งแบ่งเป็น 3 อย่าง ได้แก่:
1. กามภพ - ภพที่เกิดขึ้นในภพที่ยังมีความพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งสัมผัส
2. รูปภพ - ภพของผู้ที่เกิดในสภาวะที่มีรูป แต่ปราศจากความยินดีในกาม
3. อรูปภพ - ภพที่เกิดขึ้นในสภาวะที่ไม่มีรูป มีเพียงจิตล้วนๆ
ใน มัชฌิมนิกาย มหาตัณหาสังขยสูตร พระพุทธเจ้าตรัสถึงภพว่า ภพคือการเกิดของอัตตาและสรรพสิ่งที่สืบต่อในรูป, เวทนา, สัญญา, สังขาร, และวิญญาณ นี่คือภพที่ก่อให้เกิดการเกิดใหม่ในวัฏฏะ.
๒. ความมีขึ้นแห่งภพ (นัยที่ ๑)
การมีขึ้นของภพเกิดจาก ตัณหา (ความอยาก) ที่เป็นสาเหตุสำคัญ ซึ่งเป็นต้นเหตุของความมีภพใหม่ ตัณหาแบ่งเป็น 3 อย่าง:
1. กามตัณหา - ความอยากในกาม
2. ภวตัณหา - ความอยากในความเป็นและการมีอยู่
3. วิภวตัณหา - ความอยากไม่ให้มีหรือไม่เป็น
ใน สังยุตตนิกาย นิทานสังยุตต์ (SN 12.2), พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เพราะตัณหาจึงมีภพ" ซึ่งหมายความว่า ตัณหาทำให้เกิดความติดในชีวิต และนำไปสู่การเวียนว่ายในวัฏฏะสงสาร.
๓. ความมีขึ้นแห่งภพ (นัยที่ ๒)
ในอีกนัยหนึ่ง ความมีขึ้นของภพยังเกิดจาก กรรม ที่กระทำไว้ทั้งดีและชั่ว กรรมเหล่านี้เป็นพลังงานที่ส่งผลให้เกิดการมีภพใหม่ตามสมบัติของกรรมที่ได้กระทำไว้ ดังที่กล่าวใน อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต (AN 3.76) พระพุทธเจ้าตรัสว่า: "สิ่งที่ยึดถือไว้ย่อมไปสู่ภพ กรรมเป็นสิ่งที่นำไปสู่การเวียนว่ายอยู่ในภพใหม่".
๔. เครื่องนำไปสู่ภพ
เครื่องนำไปสู่ภพ คือ ตัณหา ที่ขับเคลื่อนให้เกิดการยึดมั่นในสังขาร และก่อให้เกิดภพใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่ความเกิด, แก่, เจ็บ, และตาย การมีเครื่องยึดเหนี่ยวเป็นความอยากในภพนั้นทำให้คนยังเวียนว่ายในสังสารวัฏต่อไป.
ใน สังยุตตนิกาย นิทานสังยุตต์ (SN 12.2) พระพุทธเจ้าตรัสว่า: "ตัณหาคือรากเหง้าและเหตุที่ก่อให้เกิดภพ, การมีอยู่ของชีวิต".
๕. ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่
การเกิดภพใหม่เกิดขึ้นจากการที่วิญญาณยึดติดกับขันธ์ทั้งห้า ซึ่งเกิดจากการยึดมั่นในกาม, ภวะ, และวิภวะ. ภพใหม่เกิดขึ้นจากวิญญาณที่ยังติดอยู่ในกิเลสและกรรมที่ได้กระทำมา.
๖. ที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ (นัยที่ ๑)
วิญญาณต้องอาศัย รูปขันธ์ (เช่น ร่างกาย) และ จิต เพื่อให้ดำรงอยู่ วิญญาณจึงเกิดและตั้งอยู่ได้ต้องมีสภาวะที่เกิดจากการกระทำของขันธ์ทั้งห้า ดังที่กล่าวไว้ใน มหาตัณหาสังขยสูตร ว่า "วิญญาณย่อมเกิดขึ้นด้วยอาศัยปัจจัยทั้งหลาย".
๗. ที่ตั้งอยู่ของวิญญาณ (นัยที่ ๒)
อีกนัยหนึ่ง วิญญาณต้องการการยึดเหนี่ยวในกิเลสและตัณหาที่เป็นพลังงานทางจิต วิญญาณนี้จะไม่สามารถตั้งอยู่ได้หากปราศจากเครื่องยึดเหนี่ยว เช่น กามตัณหา หรือภวตัณหา.
๘. ความมีขึ้นแห่งภพ แม้มีอยู่ชั่วขณะก็น่ารังเกียจ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ภพนั้นเต็มไปด้วยทุกข์ แม้จะมีเพียงชั่วครู่ชั่วยามก็น่ารังเกียจ เพราะภพคือการเกิดใหม่ การเกิดใหม่ย่อมนำไปสู่ความทุกข์ในการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสังสาร เช่นใน ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ที่กล่าวว่า "ความเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความเจ็บป่วยเป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์".
การมีอยู่ของภพในแต่ละขณะ คือการเวียนว่ายในทุกข์
ทุจริต ๓: อาหารของนิวรณ์ ๕ และวิธีละจากคำสอนพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึง ทุจริต ๓ (ความประพฤติผิดทางกาย วาจา และใจ) ว่าเป็น "อาหาร" หรือปัจจัยที่เกื้อหนุนนิวรณ์ ๕ ใน อากังเขยยสูตร (...
-
สิ่งที่ข้าพเจ้า พิสูจน์ และเห็ด้วยตาตนเอง https://photos.app.goo.gl/GwuC69wJ8FfVLoTUA ขออนุโมทนาสาธุ ไว้เป็นอนุสสติ เตือนไว้มิให้ประมาท
-
[๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก๔ จำพวกเป็น ไฉน คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธ...
-
https://photos.app.goo.gl/FyhiFuUkQ535Rf8P6 ขออนุญาตคุณยายและญาติมิตร นำภาพนี้มาเป็นรัตน5 เผยแผ่คำสอนจากพระโอษฐ์ (พุจธวจน) โปรดใช้วิจารณญาณ...