คำถามนี้สอดคล้องกับหลักธรรมสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงสอน คือ อริยมรรคมีองค์แปด ซึ่งเป็นการเดินทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) โดยไม่เอียงไปในสองสุดโต่ง ทั้งในด้านการเสพกามและการทรมานตนเอง
ใน ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (SN 56.11) พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนไว้ว่า:
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การดำเนินตามทางสุดโต่งสองอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ผู้แสวงหาความรู้ควรละทิ้งเสีย คือ การหมกมุ่นในกามสุขและการทรมานตนให้ลำบาก… ทางสายกลางที่เราได้ตรัสรู้นี้ ให้ปัญญา ให้ความสงบ ให้ปัญญาชำแรกกิเลสให้ถึงนิพพาน”
https://suttacentral.net/sn56.11
การปฏิบัติตามทางสายกลางนั้นหมายถึงการรักษาความสมดุล ไม่สุดโต่งไปในความสุขทางโลกหรือการบำเพ็ญตบะจนร่างกายลำบาก ซึ่งจะนำไปสู่การมีศีล สมาธิ และปัญญา
ความหมายที่เกี่ยวข้องในคำถาม
- การรู้ให้ถูกต้อง – การมี สัมมาทิฏฐิ หรือความเห็นชอบในอริยมรรค ซึ่งก็คือการมีความเข้าใจที่ถูกต้องในธรรมะ เช่น ความจริงของทุกข์ (ทุกข์) เหตุของทุกข์ (สมุทัย) ความดับทุกข์ (นิโรธ) และหนทางปฏิบัติไปสู่การดับทุกข์ (มรรค) การรู้ให้ถูกต้องจึงหมายถึงการศึกษาธรรมและการปฏิบัติให้เข้าใจตามความเป็นจริง
- การปฏิบัติตามทางสายกลาง – การเดินตาม อริยมรรคมีองค์แปด ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติเพื่อการพัฒนาคุณธรรมและการละกิเลส
ดังนั้น คำกล่าวที่ว่า "การรู้ให้ถูกต้อง" และ "การปฏิบัติตามทางสายกลาง" นั้น เป็นหลักธรรมที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
คำถามนี้สอดคล้องกับหลักธรรมสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงสอน คือ อริยมรรคมีองค์แปด ซึ่งเป็นการเดินทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) โดยไม่เอียงไปในสองสุดโต่ง ทั้งในด้านการเสพกามและการทรมานตนเอง
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การดำเนินตามทางสุดโต่งสองอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ผู้แสวงหาความรู้ควรละทิ้งเสีย คือ การหมกมุ่นในกามสุขและการทรมานตนให้ลำบาก… ทางสายกลางที่เราได้ตรัสรู้นี้ ให้ปัญญา ให้ความสงบ ให้ปัญญาชำแรกกิเลสให้ถึงนิพพาน”
https://suttacentral.net/sn56.11
การปฏิบัติตามทางสายกลางนั้นหมายถึงการรักษาความสมดุล ไม่สุดโต่งไปในความสุขทางโลกหรือการบำเพ็ญตบะจนร่างกายลำบาก ซึ่งจะนำไปสู่การมีศีล สมาธิ และปัญญา
ความหมายที่เกี่ยวข้องในคำถาม
- การรู้ให้ถูกต้อง – การมี สัมมาทิฏฐิ หรือความเห็นชอบในอริยมรรค ซึ่งก็คือการมีความเข้าใจที่ถูกต้องในธรรมะ เช่น ความจริงของทุกข์ (ทุกข์) เหตุของทุกข์ (สมุทัย) ความดับทุกข์ (นิโรธ) และหนทางปฏิบัติไปสู่การดับทุกข์ (มรรค) การรู้ให้ถูกต้องจึงหมายถึงการศึกษาธรรมและการปฏิบัติให้เข้าใจตามความเป็นจริง
- การปฏิบัติตามทางสายกลาง – การเดินตาม อริยมรรคมีองค์แปด ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติเพื่อการพัฒนาคุณธรรมและการละกิเลส
ดังนั้น คำกล่าวที่ว่า "การรู้ให้ถูกต้อง" และ "การปฏิบัติตามทางสายกลาง" นั้น เป็นหลักธรรมที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากทุกข์ซึ่งเราเรียกว่า อริยสัจ 4 หรือความจริงอันประเสริฐทั้งสี่ ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ธรรมะนี้ประกอบด้วยความจริงสี่ประการ ได้แก่
- ทุกข์ (Dukkha) – ความจริงของทุกข์ หมายถึงความไม่สบายกายและใจทั้งหลายที่เราประสบในชีวิต ความไม่สมหวัง ความเกิดแก่เจ็บตาย เป็นต้น
- สมุทัย (Samudaya) – ความจริงของเหตุแห่งทุกข์ หมายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ซึ่งก็คือ ตัณหา หรือความทะยานอยาก ความยึดมั่นในสิ่งต่าง ๆ
- นิโรธ (Nirodha) – ความจริงของการดับทุกข์ หมายถึงสภาวะที่ปลอดจากทุกข์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเราสามารถดับเหตุแห่งทุกข์ได้
- มรรค (Magga) – ความจริงของหนทางดับทุกข์ หมายถึงหนทางการปฏิบัติเพื่อไปสู่การหลุดพ้นทุกข์ ซึ่งเรียกว่า อริยมรรคมีองค์แปด หรือทางสายกลาง
ใน ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร (SN 56.11) พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงอริยสัจ 4 เป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ ซึ่งเป็นการประกาศธรรมะที่เป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนา:
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสัจ 4 นี้แล คือทุกข์ อริยสัจว่าด้วยทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ อริยสัจว่าด้วยเหตุแห่งทุกข์ ความดับแห่งทุกข์ อริยสัจว่าด้วยความดับแห่งทุกข์ หนทางอันประเสริฐอันนำไปสู่ความดับแห่งทุกข์ อริยสัจว่าด้วยหนทางอันประเสริฐนั้น" https://suttacentral.net/sn56.11
อริยสัจ 4 เป็นธรรมะที่ชี้นำให้เราพ้นจากทุกข์โดยการรู้จักทุกข์ เห็นเหตุแห่งทุกข์ เข้าใจถึงสภาวะดับทุกข์ และปฏิบัติตามหนทางที่นำไปสู่การหลุดพ้น
ที่มา: https://chatgpt.com/share/6739bd5a-b658-800d-ac59-2c7e78bcf29e